เมื่อเวลา18.00 น.วันที่10 ก.ย.ที่ศาลา 3 วัดอนงคาราม วรวิหาร ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ได้มีการสวดพระอภิธรรมศพนายนพดล อายุ 44 ปีเจ้าของร้านขาย เชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว และนางสิริรัตน์ อายุ 40 ปี 2 สามีภรรยาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขี่รถจยย.ชนท้ายรถยนต์ แล้วร่างกระเด็นเข้าไปใต้รถพ่วง 22 ล้อ เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ซึ่งภาพที่ปรากฏต่อหน้าแขกผู้มาร่วมงานคือ นายนนทพัฒน์ หรือ นนท์ อายุ16ปี และด.ช.ณัฐพัฒน์ หรือ ไนน์ อายุ6ขวบ ลูกชายทั้ง 2 คนของผู้ตาย จุดธูปไหว้ศพด้วยกัน สร้างความเศร้าสลดให้กับแขกที่มาร่วมงาน
นายนนทพัฒน์ เปิดเผยว่า ตนเรียนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนโพธิสารพิทยากร ทราบข่าวร้ายจากญาติโทรศัพท์มาบอก ช่วงสายของวันที่ 8ก.ย.ที่ผ่านมาขณะกำลังเรียนหนังสือคาบแรก ทำใจไม่ได้ ไม่เป็นอันเรียนหนังสือ พ่อตนทำงานเป็นพนักงานฝ่ายขายของบริษัท ซันนี่ฟอยล์อินเตอร์เทรด จำกัด ส่วนแม่ เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ช่วงเช้าพ่อขี่รถจยย.จากบ้านพักย่านบางใหญ่ไปส่งตนที่โรงเรียน แล้วกลับไปรับน้องเพื่อไปส่งที่โรงเรียนอยู่เย็นวิทยา ชั้นป.1 และรับแม่ไปส่งที่ทำงาน ปกติพ่อจะใช้รถยนต์ แต่วันนั้นคงเห็นว่าฝนตกและคาดว่ารถจะติด จึงใช้รถจยย.ทั้งๆที่ไม่ค่อยได้ขี่
เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ บนถนนกาญจนาภิเษก ช่วงสะพานกลับรถ ก่อนถึงถนนสุขาภิบาลบางระมาด เล็กน้อย ก่อนเกิดเหตุมีคนขี่รถจยย.ย้อนศรขึ้นฟุตปาทมาจากถนนสุขาภิบาลบางระมาด เพื่อลักไก่ขึ้นสะพานกลับรถ ปาดหน้ารถเก๋งฮอนด้าที่ขับมาในเลนขวาสุดของช่องทางขนาน รถเก๋งเบรกไม่ทันชนจยย.จนกระเด็นไปไกล กันชนหน้าได้รับความเสียหาย รถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ขับตามหลังรถฮอนด้ามาเบรกทันไม่ชนท้ายคันหน้า แต่รถจักรยานยนต์ของพ่อตนขี่ตามหลังรถมิตซูบิชิ โดยมีน้องนั่งหน้า แม่ซ้อนท้าย เบรกไม่ทันแฮนด์รถเฉี่ยวด้านหลังซ้าย รถเสียหลัก ร่างและรถจยย.กระเด็นเข้าไปใต้ท่องรถพ่วง22ล้อ ที่วิ่งมาในเลนกลางตามปกติ แม่เสียชีวิตคาที่ พ่อไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนน้องชายรอดตายปาฏิหาริย์ ได้รับบาดเจ็บเพียงมือถลอกเล็กน้อยเท่านั้น คนขับรถพ่วงเมื่อรู้ว่าทับคนก็เบรกรถลงมารับผิดชอบไม่หลบหนี
นายนนทพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากเกิดเรื่อง ทราบว่า คนขี่จยย.คันที่ก่อเรื่อง ตั้งสติได้ขี่รถหลบหนีไป ขณะนี้ตำรวจรู้ตัวคนขี่แล้ว ตนอยากให้คนขี่รถจยย.ต้นเหตุออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ส่วนด้านคดี พนักงานสอบสวนรอให้งานศพของพ่อแม่ตนจบก่อน จึงจะเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอีกครั้ง ตอนนี้ตนกับน้องย้ายมาพักอยู่กับยายที่บ้านพักย่านถนนศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ซึ่งภาระอันหนักหน่วงหลังจากสูญเสียพ่อกับแม่คือ ภาระการผ่อนบ้าน และค่าเทอมน้องที่เรียนEP.ที่ราคาค่อนข้างสูง ในส่วนของตนมีผู้ใจบุญช่วยจ่ายค่าเทอมให้จนจบม.ปลาย และให้กินอาหารและน้ำฟรีตลอดจนเรียนจบ จนถึงขณะนี้ตนก็ยังทำใจไม่ได้ ส่วนศพพ่อกับแม่จะทำการฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.นี้